เมื่อพูดถึงอีกหนึ่งโรคยอดนิยมที่มักจะพบในคนแทบทุกเพศทุกวัยนั้น เชื่อว่าต้องมีอาการกรดไหลย้อนรวมอยู่ด้วยเป็นแน่ โดยโรคกรดไหลย้อน หรือ Gastroesophageal Reflux Disease: GERD นี้ เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากสภาวะที่ระบบย่อยอาหารของเราเกิดมีปัญหาขึ้น จากการที่น้ำย่อยที่ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารในกระเพาะเกิดตีกลับย้อนขึ้นมาตามทางเดินของหลอดอาหาร เป็นสาเหตุให้เรารู้สึกจุดเสียดท้องขึ้นมาถึงหน้าอกอย่างกะทันหัน ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีอาการที่มากน้อยแตกต่างกันไป ตั้งแต่จุกเสียดแน่นท้อง แน่นหน้าอก ไปจนถึงมีอาหารเรอ คลื่นไส้อาเจียนออกมา หรือหากเป็นหนักก็อาจจะทำให้กลายเป็นโรคเรื้องรังจนลุกลามเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาด้วยก็ได้
โรคกรดไหลย้อนเกิดจากอะไร ?
สำหรับสาเหตุทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนนั้นนอกจากจะเกิดจากความผิดปกติของร่างกายโดยตรงแล้ว อีกหนึ่งสาเหตุหลัก ๆ ก็คือเกิดจากลักษณะการกินอาหารและการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง โดยบางคนอาจจะละเลยในเรื่องของการใส่ใจในการดูแลสุขลักษณะและอาหารการกินของตัวเองจนเกินไป จนทำให้กลายเป็นภัยเงียบที่คอยทำร้ายร่างกายเรามานานอย่างไม่รู้ตัว เช่น มักจะชอบรับประทานกาแฟ น้ำอัดลม หรือแอลกอฮอล์อยู่บ่อย ๆ ในขณะที่ท้องว่าง หรือไม่ชอบทานข้าวให้เป็นเวลา ชอบทานอาหารทีละมาก ๆ ในเวลาที่รวดเร็ว หรือนอนทันทีหลังจากทานอาหารที่เพิ่งอิ่มใหม่ ๆ เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนมากมักจะพบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนนั้นมักพบบ่อยในกลุ่มคนอ้วนหรือกลุ่มคนที่ชอบสูบบุหรี่เป็นนิสัย ทั้งนี้หากพบว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อนอยู่บ่อย ๆ ต้องรีบรักษากรดไหลย้อนให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้มีอาการที่รุนแรงและป้องกันการลุกลามไปเป็นโรคอื่น ๆ ต่อ
วิธีแก้กรดไหลย้อนต้องทำอย่างไร ?
สำหรับวิธีแก้กรดไหลย้อนนั้นสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงสามารถรักษาโดยการใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง หรือใช้วิธีการผ่าตัด โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการลุกลามไปจนทำให้กระเพราะหรือหลอดอาหารอักเสบ แต่ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิตประจำวันให้ถูกต้องก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยทำให้อาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน เช่น เปลี่ยนวิธีการกินอาหารให้ถูกต้อง ไม่รับประทานอาหารที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ง่าย อย่างการดื่มน้ำอัดลมมาก ๆ หรือดื่มก่อนทานข้าวในขณะที่ท้องว่าง การทานอาหารที่มีรสเผ็ดมาก ๆ การปรับเปลี่ยนท่าทางที่เหมาะสมอย่างการนั่งทำงานในท่าที่ถูกต้อง ใช้เบาะรองนั่งมาช่วยในการนั่งทำงานเพื่อให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น หรือการไม่นอนทันทีที่ทานอาหารอิ่ม เป็นต้น
ทั้งนี้ก่อนเราจะเริ่มการรักษาที่ถูกต้องได้นั้นก็สามารถประเมินความรุนแรงของโรคได้คร่าว ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยหากเป็นระดับแรกหรือระดับอาการที่น้อยที่สุดที่มักจะพบได้ง่ายในคนทั่วไป หรือเกิดขึ้นได้บ้างนาน ๆ ทีก็คืออาการที่มีกรดไหลย้อนเกิดขึ้นบ้างในบางครั้ง มีอาการแน่นจุดเสียบขึ้นหน้าอกแต่ไม่มาก และสามารถหายได้เองในเวลาที่ไม่นาน อาการแบบนี้จะเรียกว่าเป็นระดับ GER ส่วนในระดับที่รุนแรงขึ้นอีกนิดก็จะเป็นอาการที่พบว่าเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเรา เช่น มีอาการจุดเสียดแน่นหน้าอกเป็นเวลานาน มีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ่อย ๆ เป็นต้น ระดับนี้จะอยู่ในระยะที่เรียกว่ากรดไหลย้อนระดับ GERD ส่วนระดับที่รุนแรงที่สุดนั้นจะเป็นระดับที่อาการของโรคเข้าสู่ถาวะที่กรดไหลย้อนมีการไหลย้อนกลับเข้าสู่หลอดอาหารลามมาถึงคอแล้ว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรงและทรมานมากแบบนี้จะเรียกว่าอยู่ในระดับ LPR
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนควรที่จะทราบไว้เพื่อจะได้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเป็น หรือจะได้รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นในระดับไหน หรือสำหรับใครที่ยังไม่เคยพบว่ามีอาการเหล่านี้ก็จะได้รู้จักอาการและเตรียมความพร้อมได้อย่างถูกต้องในการดูแลตัวเอง เพื่อให้หลีกเลี่ยงจากโรคนี้ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถรู้เท่าทันกับโรคที่เป็นภัยเงียบต่อสุขภาพอย่างโรคกรดไหลย้อนได้ทันท่วงทีแล้ว
ช้อปแบรนด์ดังปังกว่าครั้งไหนๆ ที่ 6.6 Brands Festival ตั้งแต่ 5 พฤษาคม – 6 มิถุนายนนี้! รวมดีลเด็ดไอเท็มฮอตจากแบรนด์ชั้นนำลดสนั่นทุกเที่ยงคืนกับ Midnight Brands Flash Sale แจกโค้ดส่วนลดปังๆ มูลค่า 1,000 บาททุกวัน! มาพร้อมโปรโมชั่นลดแรงเกินต้านจากหลากหลายหมวดหมู่ยอดนิยมที่คุณไม่ควรพลาด รับ Coin Cashback สูงสุด 3,000 Coins เมื่อซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ครบ 3,000 บาท! ซื้อ 1 แถม 1 สินค้าแม่และเด็ก และสินค้าความงามไอเท็มฮอต อัพเดทไอเท็มใหม่ๆ ทุกวัน! ช้อปของกินและของใช้ในบ้านกับ Shopee Mart ราคาไม่เกิน 99.- พร้อมส่งฟรีถึงบ้านขั้นต่ำ 0 บาท! และสินค้าแฟชั่นลดปังๆ สูงสุดถึง 50%!